เลือก Craft beer อย่างไรให้เหมาะกับเมนูที่คุณชอบ
อย่างที่ทุกคนรู้ ช่วงนี้กระแสคราฟเบียร์ (Craft beer) กำลังมาแรงจนมีหลายๆคนไปลงเรียนคอร์สทำเบียร์กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้เราเลยจะมาเริ่มด้วยการพูดถึงคราฟเบียร์ที่เป็นที่นิยมกันในแบบคร่าวๆ ว่าคืออะไร? แล้วมันต่างกันอย่างไร?
ก่อนที่จะพูดถึงคราฟเบียร์แต่ละประเภท สิ่งที่ต้องรู้เลยคือ ในการทำคราฟเบียร์สิ่งที่ทำให้เบียร์เกิดความแตกต่างกันนอกจากวัตถุดิบที่เราใส่ลงไปแล้ว วิธีการหมักเบียร์ที่ต่างกันก็ส่งผลให้รสชาติของคราฟเบียร์แต่ละตัวแตกต่างกันไปด้วย เมื่อทุกคนรู้แล้วงั้นเราก็จะมาพูดถึงคราฟเบียร์แต่ละตัวกันต่อเลย
1. Lager เบียร์ยอดนิยมที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด โดยเบียร์ชนิดนี้จะใช้อุณภูมิในการหมักที่ค่อนข้างต่ำ ใช้ยีสต์ที่เกิดขึ้นที่ก้นถังหมัก เวลาที่ใช้ในการหมักอยู่ที่ 2- 3 เดือน เบียร์ที่ได้จะมีสีเหลืองทอง ดื่มแล้วจะให้ความรู้สึกสดชื่น เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้น ดื่มง่าย เก็บได้นาน
2. Pale Ale เอกลักษณ์ของเบียร์ชนิดนี้ก็คือจะมีสีเหลืองทอง รสชาติหนัก ซับซ้อน ได้ความหอมหวานจากมอลต์และมีรสชาติที่ขมจากฮอปส์ โดยจะให้มอลต์ในอัตราส่วนที่เท่าๆกันกับฮอปส์
3. Indian Pale Ale (IPA) เบียร์ชนิดนี้จะมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น เพราะว่าถูกปรับแต่งมาจาก Pale Ale โดยการใส่ฮอปส์และยีสต์เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีรสชาติขมขึ้น สีค่อนข้างจะเข้ม และจะได้กลิ่นของฮอปส์ที่ค่อนข้างชัดเจนอีกด้วย
4. Weizen เบียร์ชนิดนี้น่าจะเหมาะกับสาวๆหรือคนที่ไม่ชอบรสขมของเบียร์มากนัก เพราะเป็นเบียร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นหอมคล้ายกับผลไม้ กลิ่นฮอปส์ไม่แรง สีเหลืองใส รสชาติขมเล็กน้อย ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวล
5. Dunkel เบียร์ที่เรารู้จักกันในชื่อของ “เบียร์ดำ” เป็นเบียร์ที่ผลิตจากมอลต์ที่นำไปคั่วจนมีสีเข้ม ทำให้ได้รสชาติหวานเจือรสขม เอกลักษณ์ของเบียร์ชนิดนี้นอกจากจะมีสีเข้มแล้ว จะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นกาแฟหรือช็อกโกแลต
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นเพียงคราฟเบียร์ที่ได้รับความนิยมส่วนหนึ่งเท่านั้น จริงๆแล้วยังมีคราฟเบียร์อีกหลายประเภทให้ทุกคนได้ลองศึกษา ถ้าหากจะให้ดื่มเบียร์อย่างเดียวโดยไม่มีอาหารหลายๆคนคงไม่ชอบ งั้นเรามาดูเมนูไหนกินคู่กับเบียร์ที่เลือกแล้วดีกว่าเดิม เรามาเริ่มที่เมนูแรก คือ
• Weizen เบียร์ชนิดนี้จะช่วยดึงรสเค็มและรสหวานจากอาหารทะเลออกมา ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติอาหารทะเลอย่างแท้จริง จึงเหมาะกับการจับคู่กับอาหารซีฟู้ดทั้งหลาย
• Lager เข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีความครีมมี่มากๆ เพราะรสชาติขมเบาๆของตัวเบียร์จะไปช่วยตัดเลี่ยนของอาหารได้ดี และทำให้เรากินเมนูได้มากขึ้น
• IPA แก้เลี่ยนได้ค่อนข้างดีเลย และช่วยให้รสชาติอาหารก็ดีขึ้น เหมาะกับสายโปรตีน โดยเฉพาะเนื้อหมู
• เบียร์ดำจะช่วยดึงรสอูมามิของผักออกมา จึงเข้ากันได้ดีกับอาหารประเภทผักย่าง
• Pale Ale เหมาะกับอาหารทอดทั้งหลาย รสชาติที่ขมจะช่วยชูรสของอาหารมากขึ้น
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านไปแล้วหวังว่าจะช่วยเลือกเครื่องดื่มและเมนูอาหารสำหรับเย็นนี้ได้แล้ว ถ้าหากใครได้ผ่านมาโคราช ลองแวะไปร้าน Hop Beer House Korat ด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติเหมาะกับการผ่อนคลาย ทานอาหารอร่อยๆ กับเครื่องดื่มเย็นๆ พบปะกับเพื่อนหลังเลิกงาน นั่งฟังเพลงชิลๆ หรือใครที่สนใจอยากมีความรู้การทำคราฟเบียร์ ที่นี่ก็มีคอร์สให้เรียนจากผู้เชี่ยวชาญ และได้ทดลองทำด้วยตัวเองจริงๆ