เบียร์ในประเทศเยอรมนี

Beer GER

เบียร์ในประเทศเยอรมนี

หลายๆท่านอาจจะคิดว่าเบียร์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี แต่ในความเป็นจริงแล้วต้นกำเนิดของเบียร์นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยมีการคาดการณ์กันว่า เบียร์มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อ 7,000 ปีก่อนและเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสมัยอียิปต์โบราณ จากนั้นจึงกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในเวลาต่อมา
สำหรับชาวเยอรมันแล้ว เบียร์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมานับพันปี โดยเริ่มแรกนั้น เบียร์จะถูกผลิตขึ้นในโบสถ์ทางตอนใต้ของประเทศและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะในสมัยนั้นเบียร์ถือว่ามีความสะอาดและเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพ จนกระทั่งเมื่อ 500 ปีก่อน ได้มีการประกาศใช้กฎหมายความบริสุทธิ์ของเบียร์ (The Purity Law) เพื่อควบคุมคุณภาพของเบียร์โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเดิมถูกบังคับใช้เฉพาะแคว้นบาวาเรียเท่านั้น จากนั้นจึงได้บังคับใช้ทั่วทั้งประเทศในเวลาต่อมา และในปัจจุบัน กฎหมายดังกล่าวได้กำหนดให้เบียร์มีวัตถุดิบหลัก 4 อย่างคือ
  • มอลต์
  • ฮอปส์
  • ยีสต์
  • น้ำ
จากข้อกำหนดเรื่องวัตถุดิบ จึงทำให้รสชาติของเบียร์ที่ผลิตในประเทศเยอรมนีมีลักษณะเฉพาะตัวและเป็นมาตรฐานเดียวกันซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น และด้วยการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน จึงได้ผลักดันให้อุตสาหกรรมเบียร์ของเยอรมนีเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตดังกล่าว ก็มาจากการบริโภคในประเทศเป็นหลักดูได้จากการที่คนเยอรมันใช้จ่ายสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อปีมากที่สุดในโลก โดยจ่ายประมาณ 60,000 บาทต่อคนต่อปี และมีปริมาณการดื่มเฉลี่ยมากถึง 130 ลิตรต่อคนต่อปี ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 45 ลิตรต่อคนต่อปี เท่านั้น ปัจจุบันเยอรมนีมีโรงงานผลิตเบียร์มากกว่า 1,500 แห่ง เป็นเจ้าของแบรนด์เบียร์มากกว่า 5,500 แบรนด์ที่จำหน่ายและส่งออกไปทั่วโลกและมีมูลค่าการส่งออกในปี 2020 กว่า 37,500 ล้านบาท
และในยุโรปที่เบียร์มีราคาถูกกว่าน้ำดื่มนั้น เหตุผลแรกก็เพราะว่าประเทศในทวีปยุโรปส่วนใหญ่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี ทำให้มีน้ำประปาที่สะอาดมากพอที่จะบริโภคได้และภาครัฐได้ติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับบริโภคไว้ทั่วไปในพื้นที่สาธารณะเมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงน้ำดื่มได้ง่ายโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพื่อซื้อน้ำดื่มจากร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ จึงเลือกที่จะวางจำหน่ายเฉพาะน้ำแร่ที่มีราคาสูง ส่วนน้ำเปล่าแบบธรรมดา จะสามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เท่านั้น สำหรับประเทศเยอรมนียังมีเหตุผลเพิ่มเติมอีกว่าประเทศแห่งนี้มีภูเขาไฟหลายร้อยลูก ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและกลายเป็นแหล่งผลิตน้ำแร่คุณภาพสูง มีรสสัมผัสที่ดี ทำให้คนเยอรมันนิยมสั่งน้ำแร่เมื่อไปร้านอาหารหรือนำมาผสมกับเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ นอกจากความชื่นชอบในการดื่มของชาวเยอรมันแล้ว อีกปัจจัยที่ผลักดันอุตสาหกรรมเบียร์ในเยอรมนีให้เติบโตคือ การเก็บภาษีจากเบียร์ที่ต่ำที่สุดในยุโรป โดยราคาขายเฉลี่ยในห้างสรรพสินค้าคือ 25 บาทต่อขวด (330 มิลลิลิตร) และมีการเรียกเก็บภาษีประมาณ 1 ถึง 2 บาทต่อขวด คิดเป็นเพียง 4 ถึง 8% เท่านั้น
อย่างไรก็ตามควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อรักษาสุขภาพและไม่เป็นการเดือดร้อนผู้อื่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก longtunman