LAGERเบียร์สีเหลืองทองสวยงามสะดุดตา
วันนี้เราจะทำความรู้จักกับ LAGER กัน เบียร์สีเหลืองทองสวยงามสะดุ้ดตา คำว่า “ลาเกอร์” (Lager) มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า ห้องเก็บของ ห้องกักกัน ห้องเก็บรักษา คำกริยาในภาษาอังกฤษที่ว่า Lagering หมายถึงการหมักและเก็บบ่มเบียร์ในห้องเย็น (นั่นก็เพราะยีสต์สายพันธุ์ที่ใช้ทำเบียร์ลาเกอร์ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำ) โดยในอดีตจะมีการขุดหลุมให้เป็นห้องเก็บเบียร์ซึ่งจะมีการนำเอาน้ำแข็งจากแม่น้ำลำธารในละแวกใกล้เคียงมาใส่ไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิเบียร์ให้ต่ำอยู่ตลอดในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาได้ดีและรากไม่หยั่งลึกนักเอาไว้ข้างบนเพื่อบังแดดด้วย ทุกวันนี้มีโรงเบียร์ในยุโรปหลายแห่งที่ยังคงดูแลหลุมถ้ำเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดี และคุณสามารถเข้าชมได้ ในบางแห่งถึงกับมีการบูรณะและต่อเติมใหม่เพื่อเปิดพื้นที่แบบนี้เป็นจุดบริการลูกค้าที่ต้องการกินดื่มสังสรรค์ที่โรงเบียร์ด้วย
เบียร์ Lager เป็นเบียร์ที่ผลิตโดยใช้ยีสต์ประเภทหมักนอนก้นที่เกิดขึ้นบริเวณด้านล่างของถังหมักเบียร์ (bottom-fermentation yeast) และจะนิยมหมักโดยใช้อุณหภูมิ 5-15 องศาเรื่องราวของ Lager ก็จะค่อนข้างต่างกับ เอล (Ale) ในหลาย ๆ อย่างเช่น Ale เป็นเบียร์ที่เกิดจากการใช้ยีสต์ประเภทหมักลอยผิว (top-fermenting yeast) โดยใช้อุณหภูมิที่สูงขึ้นมาหน่อยประมาณ 18-22 องศาแต่ถ้าเราจะเทียบเรื่องสีกันตรง ๆ แล้วบอกว่า Lager ต้องเป็นเบียร์สีทองใส หรือ Ale ต้องเป็นสีน้ำตาลเข้มเห็นที…ก็คงจะไม่สามารถเทียบแบบนั้นได้นะอันที่จริงแล้ว เบียร์ประเภท Lager เขาไม่ได้มีแค่สีเหลืองอำพัน หรือ ทองอร่ามแบบที่พวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันนะเบียร์ Lager ที่เป็นสีออกน้ำตาลเข้มไปจนถึงดำก็มีให้เห็นเยอะแยะเลย (เช่น Dark Lager, Bock)แต่ไม่ว่าจะเป็น Lager หรือ Ale สิ่งที่เหมือนกันทั้ง 2 อย่าง คือ วัตถุดิบอย่าง น้ำ ฮ็อป มอลต์ และ ยีสต์ นั่นเอง
ในสมัยหนึ่ง พิลสเนอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในเบียร์เพลลาเกอร์ เคยถูกมองว่าเป็นเบียร์ยุคใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักทำเบียร์ได้ใช้ดอกฮอปส์จำนวนมาก และในปัจจุบันมีพิลสเนอร์จากโรงคราฟต์เบียร์มากมายที่อัดแน่นไปด้วยฮอปส์ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ดังนั้นเบียร์พิลสเนอร์แต่ละยี่ห้อจึงมอบความพึงพอใจที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงดอกไม้ใบหญ้า หรือน้ำผึ้งและผลไม้ต่าง ๆ นานา
เบียร์ “พอร์เตอร์บอลติก” เป็นเบียร์ที่มีคำว่าพอร์เตอร์ในชื่อ ผู้คนที่สนใจเรื่องเบียร์มากขึ้นหน่อยจึงมักคิดว่าเป็นเบียร์เอล แต่อันที่จริงเบียร์ชนิดนี้เป็นลาเกอร์ โดยทั่วไปแล้วเบียร์พอร์เตอร์บอลติกถือว่าเป็นของที่ไม่ได้ดื่มง่ายสำหรับคอเบียร์ฝึกหัด เนื่องจากมีรสแน่นข้นจัดจ้านมาก คล้ายนมช็อคโกแลตผสมเครื่องเทศ ผลไม้สีเข้ม กากน้ำตาล ฉาบด้วยความเผ็ดร้อนจากแอลกอฮอล์
เบียร์ลาเกอร์แบบ “ไอส์บ็อค” (Eisbock) มีดีกรีสูงพอที่จะทำให้คุณเมาได้ภายในการดื่มเพียง 1-2 แก้วเท่านั้น กรรมวิธีคือนักต้มเบียร์จะทำให้เบียร์ผ่านอุณหภูมิจุดเยือกแข็งเพื่อแยกน้ำออกจากเบียร์ สิ่งที่คงเหลืออยู่จึงเป็นเบียร์ “ตัวกลั่น” ทั้งนั้น รสจัดแน่นแต่ดื่มได้ไม่ยากเกินไป มอลต์หนักแน่นและนุ่ม รับประกันความแรง
ยังมีเบียร์ประเภทลาเกอร์อีกหลายชนิดย่อยๆ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และมีความจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น Rauchbier (เบียร์รมควัน / ไม่ได้รมด้วยควันตรงตัวตามชื่อเรียก แต่มีการใช้มอลต์ผ่านไฟในการปรุงเบียร์), Amber Kellerbier Munich Dunkel, Schwarzbier และอื่น ๆ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีลาเกอร์สไตล์ใหม่เกิดขึ้นในโลกของคราฟต์เบียร์เต็มไปหมดตามความบรรเจิดของนักทำเบียร์อีก เช่น อินเดียเพลลาเกอร์ เป็นต้น ส่วนลาเกอร์จำพวกที่เกิดขึ้นมาในกรอบคิดทางการตลาดเป็นหลักนั้นเราขอละไว้ก่อน
ทั้งขอให้ทุกดื่มด่ำกับความสุขในการดื่ม